Open Hour : Mon-Fri 09.00-17.00

Business Continuity Management

Business Continuity Management



         เนื่องจากในปัจจุบัน เหตุการณ์วิกฤตที่คาดไม่ถึง เป็นไปได้ตลอดเวลา ยกตัวอย่าง เช่น ภัยที่เกิดจากคน เช่น การก่อจลาจล การขู่วางระเบิด ไฟไหม้ หรือภัยที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว สึนามิ ตึกถล่ม ก๊าซพิษรั่ว หรือ เชื้อโรคแพร่ระบาด เป็นต้น เหตุการณ์เหล่านี้ หากเกิดขึ้นกับองค์กรใดแล้วนั้น ย่อมจะเกิดผลกระทบต่อธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผลกระทบทางตรงก็คือ องค์กรได้รับความเสียหายจากวิกฤต หรือ ภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ทำให้มีความสูญเสียทางธุรกิจที่เป็นรูปตัวเงินที่มีมูลค่าตามผลกระทบที่ได้รับ รวมทั้งหากเกิดความสูญเสียต่อบุคคลแล้วย่อมจะประเมินค่ามิได้อีกด้วย

          สิ่งที่สำคัญต่อมา ก็คือ เมื่อเหตุการณ์ที่องค์กรที่ได้รับภัยพิบัติเกิดขึ้น ย่อมส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ คือ ทำให้ธุรกิจหยุดชะงัก ซึ่งอาจทำให้ใช้เวลากลับมาฟื้นฟูเพื่อดำเนินธุรกิจอีกครั้ง ต้องใช้เวลาสูงถึง 1 เดือน, 2 เดือน, 6 เดือน หรือ 1 ปี ก็เป็นได้ หากเราลองประเมินเบื้องต้นดู ก็ตะสามารถคำนวณได้ว่า หากองค์การของเรา ขาดรายได้ไป 1 ปี จะมีมูลค่าสูงเพียงใด และผลกระทบทางอ้อมที่มีต่อมาก็คือ พนักงานตกงานและอื่นๆที่ตามมาอีกมากมาย ผลกระทบทางอ้อมนี้ ก็มีมูลค่าสูงจนประเมินมิได้เช่นกัน
 
          ดังนั้น หากองค์กรใดทำ BCM ก็จะทำให้องค์กรสามารถรับมือกับเหตุการ์วิกฤตต่างๆได้อย่างมีระบบแบบแผน เป็นการลดความเสียหายให้น้อยลง หรือไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นเลย อีกทั้งจะช่วยให้องค์กรมีรายได้ต่อเนื่องในขณะที่เกิดเหตุการณ์วิกฤตนั้นๆ

Business Continuity Management เป็นระบบการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินอันอาจมีผลกระทบต่อการให้บริการหรือผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ เพื่อเป็นการสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงปลอดภัยเพื่อพร้อมรองรับการปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือสถานการณ์ผิดปกติ ด้วยการจัดทำแผนตอบสนองกับสถานการณ์ภัยพิบัติ (Incident Management Plan) และแผนกอบกู้สถานการณ์ภัยพิบัติ (Business Continuity Plan) เพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

สามารถดำเนินการได้โดย
  • วางกรอบการทำงานเพื่อให้สามารถบริหารจัดการความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ (BCM Program Management)
  • ทำการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจและระบบการทำงานที่สำคัญต่างๆ (Understand the Organization)
  • ทำการประเมินและวิเคราะห์ความเสี่ยงที่มีผลต่อทรัพยากรที่จำเป็น และจัดเตรียมทรัพยากรที่เหมาะสมในสถานการณ์ฉุกเฉิน (Determine Strategy)
  • ทำการวางแผนและพัฒนาแผน BCP (Business Continuity Plan) และ แผน IMP (Incident Management Plan) ให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ (Develop and Implement BCM Plan)
  • ทำการอบรมและซักซ้อมแผนให้แก่บุคลากรในหน่วยงานเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้ในทุกสถานการณ์ (Exercise, Maintain and Review BCM Plan)
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์